โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ร่องมุมปาก คางสั้น ขมับตอบ แก้มตอบ
ใบหน้าดูมีมิติ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมเต็มความอิ่มฟูให้ใบหน้า
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวชั้นบนจะเริ่มมีความหย่อนคล้อย ชั้นไขมันจะมีการฝ่อตัวลง ผิวหนังชั้นลึกหย่อนตัวลงอย่างมาก รวมไปถึงชั้นกระดูใบหน้าเริ่มมีการยุบตัวลง ส่งผลให้เกิดริ้วรอย หรือร่องต่างๆ บนใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย และดูมีอายุมากขึ้น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมที่ช่วยเติมเต็มความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าอีกครั้ง ซึ่งฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มร่องยุบที่เป็นปัญหา และช่วยยกระชับใบหน้า ซึ่งตอบโจทย์กับปัญหาต่างๆ ที่สร้างความกังวลให้กับหลายๆ คน
ฟิลเลอร์ คือสารไฮยาลูรอนิคแอซิด ที่เป็นสารตัวเดียวกับคอลลาเจนที่ร่างกาย สามารถใช้เติมเต็มใบหน้า เพิ่มทำให้จุดที่มีความบกพร่องเต็มขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ร่องมุมปาก โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คาง คางสั้น ขมับตอบ แก้มตอบ และยังสามารถใช้เติมปาก ให้อวบอิ่มดูมีมิติได้อีกด้วย
Filler ฟิลเลอร์ กู้คืนผิวหน้าให้ดูมีมิติ คล้ายกับวัยเยาว์อีกครั้ง
ระยะเวลาของฟิลเลอร์
ระยะเวลาการคงอยู่ของฟิลเลอร์จะขึ้นกับยี่ห้อ และชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด โดยช่วงเวลาการคงอยู่นั้นจะอยู่ได้นานถึง 6 เดือน ถึง 2 ปี หลังจากนั้นจะสลายไปตามธรรมชาติ
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
ฟิลเลอร์ที่จะฉีดนั้นควรต้องได้รับการรับรองจาก อย. ในประเทศไทย และทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในสถานพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากอาจจะมีปัญหาการอุดตันเส้นเลือด หรือการติดเชื้อตามมาได้ หากได้รับการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน
ทีมแพทย์ที่เบลสคลินิกทุกท่านผ่านการอบรมรับรองการฉีดฟิลเลอร์ และมีประสบการณ์ในการให้บริการ สามารถให้ความไว้วางใจได้เลยค่ะ
เบลสคลินิก มีบริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อะไรบ้าง
- Neuramis ฟิลเลอร์เกาหลี: ราคาประหยัด ใช้ฉีดฟิลเลอร์คาง ร่องแก้ม ขมับ
- Belotero ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์:ราคาสบายกระเป๋า สามารถฉีดได้ทุกตำแหน่ง
- Restylane ฟิลเลอร์สวีเดน: เนื้อบางเบา เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตา
Juvederm ฟิลเลอร์อเมริกา: เนื้อเนียนละเอียด เป็นธรรมชาติ สามารถฉีดได้ทุกตำแหน่ง
ทางคลินิกมีโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ด้วยวิธีการที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเห็นผลลัพธ์ได้ดี ควรทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ซึ่งจะทำการประเมินปัญหา และเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ก่อนเข้ารับการรักษาอีกครั้ง
รีวิวส่วนหนึ่งจากผู้ใช้บริการ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คาง ร่องใต้ตา ร่องมุมปาก
คำถามที่พบบ่อย
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องแก้มลึก ซึ่งอาจเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและไขมันใต้ผิวหนังเมื่ออายุมากขึ้น การเติมฟิลเลอร์จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสมากขึ้น
ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้า หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น แอสไพริน หรือวิตามินอี ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด และควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ก่อนการรักษา
ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดนวดบริเวณที่ฉีดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การดื่มแอลกอฮอล์ และการสัมผัสความร้อนสูง เช่น ซาวน่า หรือแสงแดดจัด ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการอักเสบหรือการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดร่องแก้มและคางส่วนใหญ่เป็นสารไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติของร่างกาย ภายในระยะเวลา 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิด และยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมไปถึงตำแหน่งที่ฉีด
อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น อาการบวม แดง หรือช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักจะหายไปภายในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม หากฉีดโดยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดปัญหาร้ายแรง เช่น การอุดตันของเส้นเลือด หรือการติดเชื้อได้ ดังนั้น ควรเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์และได้รับการรับรอง
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์คางเริ่มจากการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินรูปหน้า และเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
จากนั้นแพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าบริเวณที่ต้องการฉีด โดยอาจมีการฉีดยาชาเฉพาะที่ร่วมด้วย แล้วจึงฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ แล้วปรับแต่งฟิลเลอร์ให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
หลังการฉีดฟิลเลอร์ ผู้เข้ารับบริการสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดนวดบริเวณคางในช่วง 24 ชั่วโมงแรก และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสัมผัสความร้อนสูงในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการอักเสบหรือการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นการปรับรูปคางโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น ระยะเวลาการคงอยู่ของฟิลเลอร์อยู่ที่ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและชนิดของฟิลเลอร์ ส่วนการผ่าตัดเสริมคางเป็นการใส่ซิลิโคนหรือวัสดุอื่น ๆ เข้าไปในคาง ซึ่งเป็นการปรับรูปคางถาวร แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าและมีความเสี่ยงจากการผ่าตัด