การฉีดโบท็อก เป็นอีกหนึ่งหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน จนใครๆ ก็พูดถึง ซึ่งโบท็อกก็จะช่วยเกี่ยวกับการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า กระตุ้นการหดตัวของไฟโบรบลาสต์ ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึงขึ้น อีกทั้งยังเป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยทำอะไรบนใบหน้ามาก่อนเลย ก็สามารถเริ่มต้นด้วยการทำโบท็อกเป็นอันดับแรกได้ เพราะมีความปลอดภัยสูง มีงานวิจัยด้านประสิทธิภาพ และความปลอดภัยมาเป็นระยะเวลานาน และราคาไม่แรง อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนอีกด้วย
หากใครที่เป็นมือใหม่ ไม่เคยทำหัตถการใดๆ มาก่อน และมีความสนใจที่จะฉีดโบท็อกซ์ วันนี้เราได้นำคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่รวบรวมเอาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับฉีดโบท็อกมาฝากกัน ทั้งโบท็อกที่ใช้ฉีด วิธีสังเกตโบท็อกของแท้ ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี หากเลือกฉีดกับหมอกระเป๋าโดยไม่ศึกษาข้อมูลจะส่งผลอันตรายอย่างไร สามารถดูคำตอบได้ในบทความนี้
โบท็อก (Botox) คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
โบท็อก (Botox) คือ สารโปรตีนชนิดหนึ่งที่ผลิตจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ซึ่งมีคุณสมบัติในการบล็อคสัญญาณเส้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว เหมาะสำหรับใช้ในการรักษาปัญหาทางด้านความงาม และการแพทย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
1. ลดริ้วรอย
โบท็อกมีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตา รอยย่นระหว่างคิ้ว รอยตีนกา และริ้วเส้นๆ ที่คอ
2. ยกกระชับใบหน้า
ช่วยยกกระชับใบหน้า โดยการฉีดบริเวณกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง เช่น กล้ามเนื้อคอ ทำให้ใบหน้าดูยก เรียวขึ้น เป็นทรง V-shape
3. ปรับรูปหน้า
โบท็อกสามารถช่วยปรับรูปหน้า โดยการฉีดบริเวณกล้ามเนื้อคาง กล้ามเนื้อกราม เพื่อปรับให้ใบหน้าเล็กลง และดูเรียวได้รูปมากขึ้น
4. ลดต่อมเหงื่อ
โบท็อกมีประสิทธิภาพในการลดการทำงานต่อมเหงื่อ โดยสามารถทำได้ทั้งบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และส่วนอื่นๆ ที่มีเหงื่อออกมาก
5. ใช้ทางการแพทย์
สามารถใช้โบท็อกในทางการแพทย์ได้ เช่น รักษาอาการปวดไมเกรน ลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดไมเกรน คลายกล้ามเนื้อ หรือลดอาการปวดเมื่อย จากออฟฟิศซินโดรม
วิธีสังเกตโบท็อกของแท้
1. ตรวจสอบอย. และเลขล็อตอย่างละเอียด
ก่อนอื่น สิ่งแรกที่ต้องสังเกตคือเลขทะเบียนอย. ของโบท็อก ผลิตภัณฑ์โบท็อกทุกชนิดที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทย ต้องผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และมีเลขทะเบียนอย. ติดอยู่ที่ฉลาก เนื่องจากในปัจจุบันมีโบท็อกหลากหลายยี่ห้อเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ทั้งจากบริษัทนำเข้า หรือยาหิ้ว จึงควรตรวจสอบยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐานการรับรอง ให้มั่นใจว่าได้รับตัวยาที่ผ่านการตรวจสอบ และได้มาตรฐานแล้ว นอกจากนี้ ควรตรวจสอบเลขล็อตเพื่อตรวจสอบวันหมดอายุก่อนฉีดเสมอ
2. เปรียบเทียบฉลากบนเว็บไซต์ทางการ
ผู้ผลิตโบท็อกแต่ละยี่ห้อ จะมีเว็บไซต์ของตัวเองที่แสดงฉลากของผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน ลองนำฉลากของโบท็อกที่มีไปเปรียบเทียบกับฉลากบนเว็บไซต์ทางการ ดูว่าตรงกันทั้งตัวอักษร, รูปแบบ, และภาษาที่ใช้หรือไม่ ในบางยี่ห้อที่บริเวณกล่องหรือขวด ก็จะมี QR code ที่จะสามารถสแกนเพื่อช่วยตรวจสอบได้ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าโบท็อกที่ฉีดนั้นเป็นของแท้จากบริษัทได้อีกทางหนึ่ง
3. สังเกตสภาพบรรจุภัณฑ์
โบท็อกของแท้จะอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ซีลอย่างดี ไม่มีรอยแกะหรือฉีกขาด กล่องบรรจุภัณฑ์มีสภาพสมบูรณ์ไม่บุบสลาย ขวดแก้วใสไม่มีรอยรั่ว หรือสิ่งสกปรกปนเปื้อน รวมไปถึงบริเวณฝาขวด ต้องไม่มีร่องรอยของการเปิดใช้งานมาก่อน
4. ตรวจสอบชื่อ, ยี่ห้อ
เลือกโบท็อกจากยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียง เช่น Allergan, Xeomin, Dysport, Aestox และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นรูปแบบที่ผ่านการรับรองจาก อย. แล้ว
5. เลือกฉีดกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ
ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี สถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล และให้คำปรึกษาคนไข้ ก่อนรับบริการฉีดโบท็อกทุกเคส ทั้งยังต้องมีการควบคุมการสั่งซื้อ ขนส่ง และจัดเก็บโบท็อกอย่างถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการรับบริการของคนไข้ รวมถึงมีใบรับรองการขึ้นทะเบียนสถานพยาบาลจาก อย.
6. อย่าหลงเชื่อราคาที่ถูกเกินจริง
หากเจอโบท็อกราคาถูกเกินจริง อาจเป็นของปลอม หรือโบท็อกที่นำเข้าแบบผิดกฎหมายที่อาจจะส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้ รวมไปถึงการฉีดกับหมอกระเป๋า หรือหมอที่ไม่มีใบรับรองมาตรฐานวิชาชีพแพทย์ ที่ไม่ได้มีการเรียนรู้เรื่อง anatomy และการทำงานของกล้ามเนื้อ ก็อาจจะส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์แก่คนไข้ได้ อีกทั้งผลข้างเคียงบางอย่างอาจจะยากต่อการรักษาอีกด้วย
โบท็อกปลอม อันตรายอย่างไร?
โบท็อกปลอม คือ โบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน ผลิตจากสารเคมีที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจมีส่วนผสมของสารพิษ หรือมีปริมาณโบท็อกมากหรือน้อยกว่าที่ระบุไว้ นอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการแล้ว ยังก่อให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายมากมาย เช่น
- ใบหน้าเบี้ยวผิดรูป
- หน้าแข็งตึง
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- หนังตาตก
- ปากเบี้ยว
- หายใจลำบาก อาจถึงขั้นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
- ติดเชื้อ
- เสียโฉม
- เสียชีวิต
ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี? วิธีเลือกคลินิกฉีดโบท็อกซ์ที่ปลอดภัย
- ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล : คลินิกที่น่าเชื่อถือจะต้องมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลติดอยู่ในตำแหน่งที่สังเกตได้ชัดเจน และมีชื่อที่ถูกต้อง
- แพทย์ผู้ทำการฉีด : แพทย์ผู้ทำการฉีด ควรเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ได้รับใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม จากแพทยสภา และมีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อก
- ศึกษาจากรีวิว : ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกได้ผ่านทางเว็บไซต์ รวมถึงค้นหารีวิวหรือสอบถามจากผู้เข้ารับบริการก่อนหน้า
- เปรียบเทียบราคา : รวบรวมข้อมูลราคาจากหลายๆ คลินิก เพื่อเลือกราคาที่เหมาะสม และไม่ถูกจนเกินไป
การเลือกฉีดโบท็อก ที่ไหนดี ควรคำนึงถึงความน่าเชื่อถือของคลินิก รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น แพทย์มีใบประกอบวิชาชีพหรือไม่ โบท็อกที่ใช้เป็นของแท้หรือไม่ ฯลฯ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และยังเป็นการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยไม่เห็นแก่หัตถการราคาถูกจนเกินไป
หากคุณกำลังมองหาคลินิกฉีดโบท็อกที่ปลอดภัย ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี อยากปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดโบท็อก สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ Bless Clinic คลินิกเสริมความงาม สุพรรณบุรี ที่ให้บริการฉีดโบท็อก 3 ยี่ห้อ ได้แก่
- Allergan โบท็อก Original จากอเมริกา คุณภาพสูงที่สุด
- Xeomin โบท็อก เจนใหม่ จากเยอรมัน ความบริสุทธ์สูง
- Aestox โบท็อก เกาหลีเกรดพรีเมียม ให้ความเป็นธรรมชาติ
โบท็อกจะเริ่มเห็นผลหลังทำใน 3-5 วัน และออกฤทธิ์เต็มที่ใน 2 สัปดาห์ และคงอยู่ได้ถึง 4-6 เดือน ใช้โบท็อกของแท้ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย พร้อมทั้งให้บริการด้านความงามอย่างครบวงจรโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาและรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย