วิธีสังเกตสัญญาณผิวเสื่อมสภาพ

ไม่มั่นใจเพราะหลุมสิว แก้ได้! ฟื้นฟูผิวลึกถึงชั้นแท้ด้วย

ไม่มั่นใจเพราะหลุมสิว แก้ได้! ฟื้นฟูผิวลึกถึงชั้นแท้ด้วย 𝐏𝐢𝐜𝐨 𝐅𝐮𝐥𝐥 𝐌𝐨𝐝𝐞

ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน รักษาหลุมสิว ด้วยเทคโนโลยี 𝐏𝐢𝐜𝐨 𝐅𝐮𝐥𝐥 𝐌𝐨𝐝𝐞 ที่ เบลสคลินิก

วิธีสังเกตสัญญาณผิวเสื่อมสภาพ
ปัญหาหลุมสิวและรอยแผลเป็นจากสิวเป็นปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจ แม้ว่าจะไม่มีสิวขึ้นใหม่แล้ว แต่ร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ก็ยังทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน การรักษาหลุมสิว จึงเป็นความท้าทายสำหรับหลายๆ คน หากคุณกำลังมองหาวิธีการรักษาหลุมสิว ที่ปลอดภัย และเห็นผลได้จริง โปรแกรมเลเซอร์รักษาหลุมสิว 𝐏𝐢𝐜𝐨 𝐅𝐮𝐥𝐥 𝐌𝐨𝐝𝐞 เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ดีที่สุดในตอนนี้ ที่สามารถช่วยให้หลุมสิวกลับมาดูตื้นขึ้น ฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูเรียบเนียน และช่วยเพิ่มความกระจ่างใสได้อย่างมีประสิทธิภาพ

𝐏𝐢𝐜𝐨 𝐅𝐮𝐥𝐥 𝐌𝐨𝐝𝐞 คืออะไร?

𝐏𝐢𝐜𝐨 𝐅𝐮𝐥𝐥 𝐌𝐨𝐝𝐞 ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานแสงในระดับความเร็วพิโควินาที (PicoSecond) ซึ่งสั้นกว่าระดับนาโนวินาที (NanoSecond หรือ Q-Swith) หลายเท่า ทำให้สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงในการทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง โดยการใช้เทคโนโลยี Fractional Pico ที่ได้รับการรับรองจาก USFDA การรักษาหลุมสิวด้วยวิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถฟื้นฟูผิวให้เนียนเรียบ และแก้ไขปัญหาหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

𝐏𝐢𝐜𝐨 𝐅𝐮𝐥𝐥 𝐌𝐨𝐝𝐞 ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อ รักษาหลุมสิว ให้ตื้นขึ้นและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • ปรับพื้นผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส ช่วยลดความหมองคล้ำและจุดด่างดำ
  • ลดเลือนรอยแดงและรอยดำ จากสิวเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง พร้อมทั้งปกป้องผิวจากปัญหาผิวใหม่ๆ
หลังจากการรักษาหลุมสิว ด้วย 𝐏𝐢𝐜𝐨 𝐅𝐮𝐥𝐥 𝐌𝐨𝐝𝐞 อาจมีอาการผิวแดงบริเวณที่เลเซอร์เล็กน้อยถึงปานกลาง และอาจมีสะเก็ดบางๆ เกิดขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการธรรมชาติ ซึ่งจะหายไปเองภายใน 5-7 วัน การดูแลผิวหลังทำสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด และทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันผิวจากรังสี UV นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการสครับผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการผลัดเซลล์ผิว หรือมีสารระคายเคืองไปในช่วงสัปดาห์แรก และสามารถแต่งหน้าได้หลังจาก 2-3 วันเพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้เต็มที่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เบลส คลินิกเสริมความงามสุพรรณบุรี แนะนำให้รับบริการโปรแกรมเลเซอร์ Pico ที่ช่วยรักษาหลุมสิว ทุก 4-6 สัปดาห์ต่อครั้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะช่วยให้หลุมสิวค่อยๆ ตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ ผิวหน้าดูเนียนละเอียด และผิวกระจ่างใสขึ้น ให้คุณเป็นคนใหม่ ที่มั่นใจขึ้นกว่าเดิม

ติดต่อ Bless Clinic

ตั้งอยู่ในซอยศิริวัฒน์ใหม่ เลยโลตัส  สุพรรณบุรีมาเล็กน้อย อาคารสีเหลือง (อาคารทับทิม 2)

โทร : 088-959-9291

Line : https://page.line.me/091xwuxu?openQrModal=true

Facebook : https://www.facebook.com/blessclinicth

Instagram : https://www.instagram.com/blessclinic.official/

ไม่มั่นใจเพราะหลุมสิว แก้ได้! ฟื้นฟูผิวลึกถึงชั้นแท้ด้วย Read More »

วิธีสังเกตสัญญาณผิวเสื่อมสภาพ

รู้ทัน! สัญญาณ “ผิวไม่ Young” ที่ไม่ควรมองข้าม

รู้ทัน! สัญญาณ "ผิวไม่ Young" ที่ไม่ควรมองข้าม

สังเกตสัญญาณผิวตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วมาฟื้นฟูความสวยกับโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์,
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม และรักษาฝ้า กระ โดยแพทย์ ที่ เบลส คลินิกเสริมความงาม สุพรรณบุรี

วิธีสังเกตสัญญาณผิวเสื่อมสภาพ

เพราะผิวที่สดใสเปล่งปลั่ง คือกุญแจสำคัญของความอ่อนเยาว์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหรือเจอกับปัจจัยต่างๆ ที่ทำร้ายผิวในชีวิตประจำวัน เช่น แสงแดด มลภาวะ ความเครียด หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ ผิวของเราก็เริ่มส่งสัญญาณเตือนว่า “ความเยาว์วัย” กำลังลดลงโดยไม่รู้ตัว

การสังเกตสัญญาณเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ คือก้าวแรกของการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด มาดูกันว่าผิวของเรากำลังเปลี่ยนแปลงในด้านไหนบ้าง และจะรับมือกับมันได้อย่างไร

  1. ผิวภายนอก: จุดด่างดำและผิวหมองคล้ำ
    หนึ่งในสัญญาณแรกที่เห็นได้ชัดคือการปรากฏของจุดด่างดำ ฝ้า และกระ ซึ่งเป็นผลมาจากการสะสมของการโดนแสงแดดโดยไม่ป้องกันอย่างเพียงพอ ผิวเริ่มดูหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใสเหมือนแต่ก่อน สีผิวไม่สม่ำเสมอ และยากที่จะฟื้นฟูหากปล่อยทิ้งไว้นาน
  2. คุณภาพผิว: ความชุ่มชื้นลดลง
    เมื่อผิวสูญเสียความชุ่มชื้น จะเกิดปัญหา ผิวแห้ง หยาบกร้าน ส่งผลให้เกิด ริ้วรอยเล็กๆ และรูขุมขนดูกว้างขึ้น นอกจากนี้ ผิวยังสูญเสียความยืดหยุ่นตามธรรมชาติ ทำให้สัมผัสแล้วไม่เนียนนุ่มเหมือนเคย
  3. โครงสร้างภายใน: ความหย่อนคล้อยของผิว
    เมื่อคอลลาเจนและอิลาสติน — ตัวช่วยหลักในการคงความกระชับของผิว — เริ่มลดลง ผิวจะมีลักษณะ หย่อนคล้อยจากด้านบนลงด้านล่าง ร่องลึกตามจุดต่างๆ เช่น ร่องแก้ม มุมปาก หรือใต้ตา จะเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงของผิวเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่หากเราใส่ใจสังเกตและดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ ก็สามารถชะลอความร่วงโรย และคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวดูสดใสขึ้นได้ การปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ บำรุงผิวด้วยสารสำคัญที่เหมาะสม และเสริมสร้างคอลลาเจนจากภายใน คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ผิวยังคง “Young” ได้นานที่สุด
และเพื่อการดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เบลส คลินิกเสริมความงามสุพรรณบุรี ขอแนะนำโปรแกรมดูแลผิวและปรับรูปหน้าที่ออกแบบมาเพื่อปัญหาความร่วงโรยของผิวอย่างตรงจุด ได้แก่

  • โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นรอยย่นหน้าผาก รอยย่นหว่างคิ้ว รอยตีนกา และริ้วเล็กๆ รอบปากที่เป็นสัญญาณของความมีอายุ
  • โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คาง เพื่อเติมเต็มร่องลึก ที่เกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น คืนความอิ่มฟู และอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า
  • โปรแกรมรักษาฝ้า กระ ช่วยฟื้นฟูสีผิวให้ดูมีความกระจ่างใส และกลับมามีสีผิวสม่ำเสมอ อย่างปลอดภัย

ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ใส่ใจในทุกรายละเอียด ให้คุณมั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

ติดต่อ Bless Clinic

ตั้งอยู่ในซอยศิริวัฒน์ใหม่ เลยโลตัส  สุพรรณบุรีมาเล็กน้อย อาคารสีเหลือง (อาคารทับทิม 2)

โทร : 088-959-9291

Line : https://page.line.me/091xwuxu?openQrModal=true

Facebook : https://www.facebook.com/blessclinicth

Instagram : https://www.instagram.com/blessclinic.official/

รู้ทัน! สัญญาณ “ผิวไม่ Young” ที่ไม่ควรมองข้าม Read More »

โปรแกรมรักษาสิว รักษารอยสิว

𝐀𝐜𝐧𝐞 𝐀𝐰𝐚𝐲 𝐏𝐫𝐨𝐠𝐫𝐚𝐦 โปรแกรมรักษาสิว รักษารอยสิว

รักษาสิว รักษารอยสิว เพื่อผิวที่เรียบเนียนและสุขภาพดีขึ้น
ไม่ต้องกังวลกับรอยแผลจากสิวอีกต่อไป

หลายคนคงเคยประสบปัญหาสิวที่ขึ้นซ้ำ ๆ ใช้ยาหลายตัวก็ยังไม่หายขาด สาเหตุของสิวนั้นไม่ได้เกิดจากแค่ปัจจัยเดียว แต่มีหลายปัจจัยที่ส่งผลรวมกัน เช่น ความมันสะสมบนผิวหน้า การอุดตันของรูขุมขน และการเกิดการอักเสบใต้ผิวหนังที่ทำให้เกิดสิวที่อาจลุกลามไปเป็นรอยแดง รอยดำ หรือหลุมสิว หากไม่ดูแลและรักษาอย่างถูกวิธี ปัญหาสิวนั้นอาจยืดเยื้อและยากที่จะรักษาให้หายขาด โดยเฉพาะการทิ้งรอยแผลเป็นที่ยากต่อการรักษารอยสิวในอนาคต

โปรแกรม Acne Away Program ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาสิวโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการรักษาสิวแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทุกปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ จนทำให้คุณสามารถจัดการกับสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย และยังช่วยรักษารอยสิว ที่เกิดจากการอักเสบของสิวได้อย่างดีเยี่ยม

ทำไมต้องเลือก Acne Away Program?

  • การกดสิวด้วยเทคนิคปราศจากเชื้อ: เพื่อลดสิวอุดตัน ที่อาจจะกลายเป็นสิวอักเสบได้ในอนาคต ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดรอยสิว และหลุมสิวในภายหลัง
  • มาสก์ลดการอักเสบ: ลดการอักเสบของผิวที่เป็นสิว ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ และช่วยให้รอยสิวที่มีอยู่จางลงได้เร็วขึ้น
  • Acne Plasma: ประจุพลาสมาความเข้มข้นสูง จะช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน และควบคุมความมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิว และทำให้การรักษารอยสิว มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • Acne Light (LED Light Therapy): ฉายแสงเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย C. acnes ที่เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบของสิว และพร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดรอยสิว ช่วยให้การรักษารอยสิวดีขึ้น
  • การฉีดสิวเฉพาะจุด: ช่วยให้สิวยุบเร็วทันใจ โดยไม่ต้องรอเป็นสัปดาห์ ทำให้ไม่ทิ้งรอยสิวที่เป็นปัญหากวนใจ

โปรแกรมดูแลปัญหาสิว Acne Away

การรักษาสิวอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าไม่รีบจัดการ สิวอาจทิ้งรอยดำ รอยแดง หลุมลึกจากสิวไว้บนผิวหน้า ซึ่งจะยากต่อการรักษาภายหลัง โดยเฉพาะรอยแผลเป็นจากสิวที่เป็นปัญหากวนใจหลาย ๆ คน โปรแกรมดูแลปัญหาสิว Acne Away ไม่เพียงแต่ช่วยลดสิว แต่ยังช่วยรักษารอยสิว ให้ผิวกลับมาดูเรียบเนียน และสวยงามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากคุณประสบปัญหาสิวที่ไม่สามารถจัดการได้หรือยังไม่หายขาด และอยากรักษารอยสิว ให้หายไปอย่างรวดเร็ว อย่ารอจนสิวทิ้งรอยลึกที่แก้ไขยาก รีบดูแลก่อนสายเกินไป ติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ เบลส คลินิกเสริมความงามสุพรรณบุรี โดยแพทย์ที่จะช่วยคุณจัดการปัญหาสิวและทำให้ผิวหน้าของคุณกลับมาสวยใสอย่างมั่นใจ

ติดต่อ Bless Clinic

ตั้งอยู่ในซอยศิริวัฒน์ใหม่ เลยโลตัส  สุพรรณบุรีมาเล็กน้อย อาคารสีเหลือง (อาคารทับทิม 2)

โทร : 088-959-9291

Line : https://page.line.me/091xwuxu?openQrModal=true

Facebook : https://www.facebook.com/blessclinicth

Instagram : https://www.instagram.com/blessclinic.official/

โปรแกรมรักษาสิว รักษารอยสิว Read More »

รักษาฝ้ากระ

ฝ้ากระ บอกลาได้! เผยเคล็ดลับหน้าใสและวิธีรักษาฝ้ากระ ไร้จุดด่างดำฉบับมือโปร

ฝ้ากระ บอกลาได้! เผยเคล็ดลับหน้าใสและวิธีรักษาฝ้ากระ ไร้จุดด่างดำฉบับมือโปร

วิธีรักษาฝ้ากระให้หายขาด มีวิธีใดบ้าง?

รักษาฝ้ากระ

ปัญหาฝ้า กระ บนใบหน้า ถือว่าเป็นปัญหาผิวอันดับต้นๆ ที่หลายคนรู้สึกกังวลใจมากที่สุด เพราะรอยฝ้าและกระบนใบหน้านั้นมีสีที่ค่อนข้างเข้มและมองเห็นได้ชัด จะแต่งหน้ากลบก็ยิ่งทำให้เป็นปื้น และหน้าดูหมองมากกว่าเดิม จึงส่งผลต่อความมั่นใจให้กับใครหลายคนเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์มากมายที่เคลมว่าสามารถรักษาฝ้ากระได้จริง แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่ได้สามารถรักษาให้หายขาดได้ อีกทั้งยังต้องอาศัยเวลาที่ค่อนข้างนาน และยิ่งไปกว่านั้น การรักษาแบบผิดวิธีหรือเผลอไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพ ก็จะยิ่งเป็นการทำร้ายผิว ส่งผลให้ฝ้ากระขึ้นมาเยอะกว่าเดิม อีกทั้งยังฝังลึกมากขึ้นอีกด้วย

แต่ปัญหาฝ้า กระ สามารถรักษาให้หายขาดได้จริง ซึ่งต้องอาศัยการดูแลสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้าฝังลึก ในบทความนี้เราจะพาไปดูวิธีรักษาฝ้ากระ ทั้งการรักษาด้วยตนเองและการเข้าพบแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะ โบกมือลาฝ้ากระ เผยผิวใสได้แบบมือโปร

ฝ้า กระ เกิดจากอะไร?

ฝ้า เป็นภาวะที่เซลล์เม็ดสีเมลานินในผิวหนังชั้นบนผลิตมากผิดปกติ เกิดเป็นจุดรูปร่างไม่แน่นอน สีน้ำตาลจางๆ ไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม คล้ายเม็ดฝุ่น กระจายอยู่บนใบหน้า มักพบบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เหนือริมฝีปาก

สาเหตุของการเกิดฝ้า

  • แสงแดด : แสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝ้า เนื่องจากรังสี UV กระตุ้นให้เซลล์เม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังทำงานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดจุดด่างดำบนใบหน้า
  • ฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ช่วงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือการใช้ยาคุมกำเนิด
  • พันธุกรรม : หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นฝ้า คนในครอบครัวเดียวกันก็สามารถเป็นฝ้าเหมือนกันได้
  • ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง : การใช้เครื่องสำอางบางชนิดอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้

กระ มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อน มีขนาดเล็ก เกิดจากการกระจุกตัวของเซลล์เม็ดสีเมลานิน พบได้ทั่วใบหน้า ลำคอ ไหล่ แขน

สาเหตุของการเกิดกระ

  • แสงแดด : แสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการเกิดกระได้เช่นเดียวกับฝ้า
  • ฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ช่วงตั้งครรภ์
  • การรับประทานยาบางชนิด : เช่น ยา tetracycline ยาคุมกำเนิด

วิธีรักษาฝ้ากระด้วยตนเอง

  1. ทายารักษาฝ้า
    เลือกยาทาที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ ไฮโดรควินโนน กรดอะเซลาอิก หรือสารอื่นๆ ที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี แต่ข้อควรระวังคือ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้

  2. รับประทานยารักษาฝ้า
    แพทย์อาจจ่ายยาที่มีส่วนผสมของสารยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น กรดทรานซามิก แต่อาจมีผลข้างเคียง จึงควรรับประทานอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

วิธีรักษาฝ้ากระด้วยหัตถการและเทคนิคทางการแพทย์

  1. รักษาฝ้ากระด้วย IPL (Intense Pulsed Light)
    IPL เป็นวิธีรักษาฝ้ากระโดยใช้เทคโนโลยีการยิงคลื่นแสงที่มีความเข้มข้นสูง ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รวมถึงฝ้ากระ มีหลักการทำงานโดยปล่อยพลังงานแสงลงสู่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผลัดเซลล์ผิวใหม่ และทำให้เม็ดสีเมลานินจางลง

     

    ข้อดี : ไม่เจ็บ ไม่มีแผล ใช้เวลาน้อย เห็นผลลัพธ์ได้ดี
    ข้อเสีย : ต้องทำซ้ำหลายครั้ง ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล

     

  2. เลเซอร์ลดเม็ดสี ช่วยรักษาฝ้ากระ
    เลเซอร์ เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ลำแสงเลเซอร์ในการกำจัดเม็ดสีเมลานินโดยตรง โดยอาจจะเป็น Q-switch laser หรือ Picosecond laser ซึ่งสามารถใช้ในรักษาฝ้ากระฝังลึก โดยแพทย์จะเลือกชนิดของเลเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว และสีผิวของแต่ละบุคคล แต่ผลลการรักษาของเลเซอร์นั้นยังค่อนข้างไม่แน่นอน จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา

    ข้อดี :

    สามารถเห็นผลลัพธ์ได้เร็วกว่า IPL ในเคสที่มีการตอบสนองต่อการรักษาได้ดี
    ข้อเสีย : ราคาสูงกว่า IPL และ ต้องดูแลผิวหลังทำอย่างเคร่งครัด

     

  3. เมโสลดเม็ดสี รักษาฝ้า กระ
    เมโส เป็นการนำวิตามิน สารอาหาร และตัวยาต่างๆ เข้าสู่ชั้นผิวหนังชั้นที่อยู่ของเม็ดสีโดยตรง แพทย์จะเลือกสูตรยาที่เหมาะสมกับสภาพผิว และปัญหาฝ้าของแต่ละบุคคล เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้เม็ดสีจางลง และช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง

     

    ข้อดี : เหมาะกับฝ้าทุกชนิด เห็นผลลัพธ์ได้ค่อนข้างดี แต่ต้องใช้เวลาในการตอบสนอง
    ข้อเสีย : อาจมีรอยเขียวช้ำบริเวณที่รับการรักษาได้

วิธีป้องกันการเกิดฝ้ากระ เคล็ดลับหน้าใส ไร้จุดด่างดำ

  • ทาครีมกันแดดทุกวัน เป็นวิธีป้องกันฝ้า กระ ที่ดีที่สุด ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และ PA+++
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น คงความสมดุลให้ผิว
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีวิตามินซีสูง
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้า เพราะการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นให้เกิดฝ้า กระ ได้

คอร์สรักษาฝ้ากระจาก Bless Clinic เผยผิวใส ไร้จุดด่างดำฉบับมือโปร

ที่ Bless Clinic เรามีคอร์สรักษาฝ้ากระ ที่ให้ผลการรักษาที่น่าพึงพอใจ โดยใช้ยารักษาฝ้ากระโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นตัวยาควบคุม ที่ไม่สามารถหาซื้อได้เองทั่วไป ควบคู่ไปกับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ โดยคอร์สดูแลปัญหาฝ้ากระนี้ คือ โปรแกรม Melasma White โดยนี้ประกอบด้วย

  • Bless Superbright : เมโสสูตรเข้มข้น ประกอบด้วย Arbutin และ Vitamin C ที่เป็นสารที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้นที่ช่วยลดการเกิดเม็ดสีขึ้นใหม่ในชั้นผิว
  • Mesobright Plus : เมโสที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี ปรับสีผิวให้กระจ่างใส อย่างสม่ำเสมอทั่วใบหน้า
  • Melasma Mask : มาส์กไวเทนนิ่งสูตรเข้มข้น ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

นอกจากโปรแกรมรักษาหลักแล้ว คอร์สนี้ยังสามารถทำควบคู่กับเทคโนโลยีอื่นๆ ได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เช่น

  • Ultralight IPL เทคโนโลยีแสง IPL ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • Pico Melasma เทคโนโลยีเลเซอร์ Picosecond ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ

คอร์สรักษาฝ้ากระจาก Bless Clinic เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดฝ้า กระ จุดด่างดำ ผสานเทคโนโลยีขั้นสูง เข้ากับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเฉพาะทาง เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

หากกำลังมองหาคลินิกรักษาฝ้ากระที่น่าเชื่อถือ แนะนำที่ Bless Clinic สถาบันเสริมความงามที่มีการบริการด้านความงาม โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ตัวยาและเครื่องมือแท้ ปลอดภัย ผลลัพธ์ชัดเจน

สัมผัสประสบการณ์ดูแลผิวที่ครอบคลุมมากกว่าที่เคย ที่ Bless Clinic
ที่อยู่ :
ตั้งอยู่ในซอยศิริวัฒน์ใหม่ เลยโลตัส สุพรรณบุรีมาเล็กน้อย อาคารสีเหลือง (อาคารทับทิม 2)

ฝ้ากระ บอกลาได้! เผยเคล็ดลับหน้าใสและวิธีรักษาฝ้ากระ ไร้จุดด่างดำฉบับมือโปร Read More »

ยกกระชับหน้า

ยกกระชับหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วย HIFU

ยกกระชับหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วย HIFU

เปรียบเทียบ HIFU vs การผ่าตัด แบบไหนยกกระชับหน้าได้ดีกว่ากัน

ยกกระชับหน้า

เมื่อพูดถึงการยกกระชับหน้า ในอดีตหลายคนอาจจะนึกถึงการผ่าตัดเพื่อยกกระชับ ซึ่งเป็นวิธีที่เห็นผลได้ชัดเจนที่สุด แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงหลายประการ เช่น การวางยาสลบ แผลเป็นถาวร ระยะเวลาในการพักฟื้นกว่าใบหน้าจะเข้าที่ รวมไปถึง ผลข้างเคียงต่างๆ จึงทำให้การศัลยกรรมยกกระชับหน้าไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรนัก ในปัจจุบัน จึงได้มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยยกกระชับผิวได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ สิ่งนี้เรียกว่าการทำ “HIFU”

HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะช่วยยกกระชับหน้าได้จริง อีกทั้งยังช่วยปรับโครงสร้างใบหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ได้รูปหน้าสวยดังใจโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากทั้งแพทย์และผู้ใช้บริการทั่วโลก

วันนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงนวัตกรรม HIFU ว่าคืออะไร มีข้อดีอย่างไร เหมาะกับใคร รวมถึงผลลัพธ์ที่น่าประทับใจหลังการทำ

การยกกระชับหน้าด้วย HIFU คืออะไร?

HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวและช่วยปรับรูปหน้าด้วยการใช้เทคโนโลยี Focused Ultrasound ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงในการยกกระชับผิว กระตุ้นเซลล์ลงลึกถึงชั้น SMAS แก้ไขริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้เรียวสวย โดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังเห็นผลลัพธ์ได้อย่างยาวนานมากถึง 1-2 ปี

HIFU มีหลักการทำงานอย่างไร?

HIFU ใช้หลักการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านผิวหนังลงไปยังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ชั้นผิวหนัง ชั้นนี้ทำหน้าที่ยึดกล้ามเนื้อใบหน้าไว้

โดยพลังงานที่ส่งลงไปนั้นจะมีระยะห่างประมาณ 1-3 มม. เท่าๆ กัน ในระหว่างการยิงจึงทำให้เกิดความสม่ำเสมอ ไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังชั้นบนสุด ไม่แสบ ไม่เบิร์นผิว และไม่ทำให้เกิดแผลหลังจากการรักษา

คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงจาก HIFU จะไปกระตุ้นให้เกิดความร้อนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเกิดการหดตัว ผลลัพธ์คือผิวกระชับ ลดความหย่อนคล้อย ใบหน้าดูเต่งตึง ริ้วรอยลดลง กรอบหน้าคมชัดเจน

HIFU เหมาะสำหรับใคร?

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ แก้มห้อย แก้มย้อย
  • ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก หางตาตก จนทำให้ดูอายุมากเกินความเป็นจริง
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้า ต้องการให้หน้าเรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ใบหน้าสองข้างไม่สมดุลกัน
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็กๆ บริเวณใต้ตาหรือร่องแก้ม
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นหลังจากการผ่าตัด

เปรียบเทียบ HIFU vs การผ่าตัด แบบไหนยกกระชับหน้าได้ดีกว่ากัน
หากคุณกำลังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกวิธีไหนดี ระหว่าง HIFU กับการผ่าตัดเพื่อยกกระชับหน้า ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของทั้งสองวิธีอย่างละเอียด ดังนี้

HIFU ยกกระชับแบบไม่ต้องผ่าตัด

HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการส่งพลังงานความร้อนลงไปใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ผลลัพธ์คือ ใบหน้าดูยกกระชับ เต่งตึง ริ้วรอยลดลง

ข้อดีของ HIFU

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
  • ไม่มีรอยเข็มหรือรอยช้ำหลังทำ สามารถใช้หน้าต่อได้ทันที
  • ช่วยยกกระชับหน้า รวมถึงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  • ช่วยปรับรูปหน้า และโครงสร้างใบหน้าได้จริง
  • ราคาถูกกว่าการผ่าตัด
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี

ข้อเสียของ HIFU

  • เห็นผลลัพธ์ช้ากว่าการผ่าตัด (ถ้าไม่ได้นับรวมระยะเวลาพักฟื้น)
  • ไม่เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยลึก หรือหนังหย่อนคล้อยมากๆ
  • ต้องทำซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์

การผ่าตัด ยกกระชับแบบถาวร

การผ่าตัดยกกระชับใบหน้า เป็นวิธีการดึงรั้งผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น โดยการตัดและเย็บแผล เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยลึกหรือหนังหย่อนคล้อยมาก

ข้อดีของการผ่าตัด

  • เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน
  • เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยลึก หรือผิวหนังหย่อนคล้อยมาก

ข้อเสียของการผ่าตัด

  • ต้องผ่าตัดและใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น
  • ต้องใช้ยาสลบในการผ่าตัด จึงอาจเกิดผลข้างเคียงได้
  • มีโอกาสเกิดแผลเป็นหลังจากการผ่าตัด
  • ราคาสูงกว่า HIFU
  • ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติเสมอไป

HIFU vs การผ่าตัด เลือกแบบไหนดีกว่ากัน?

วิธีที่ดีที่สุดของแต่ละบุคคลนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ สภาพผิว งบประมาณ และผลลัพธ์ที่ต้องการ

สำหรับผู้ที่มีปัญหาไม่มากและต้องการวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด HIFU ถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะเมื่อเปรียบเทียบข้อดีแ ละข้อเสียแล้ว การทำ HIFU ถือเป็นวิธียกกระชับหน้าที่ปลอดภัยกว่ามาก แต่ถ้าหากผู้มีปัญหาผิวค่อนข้างเยอะ ผิวหนังหย่อนคล้อยมาก การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหน อย่าลืมเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นที่พึงพอใจมากที่สุด

ทำ HIFU เจ็บไหม?

ในระหว่างการยกกระชับหน้าด้วย HIFU จะมีความรู้สึกเจ็บในระดับหนึ่ง เนื่องจากตัวเครื่องนั้นใช้เทคโนโลยีการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้น SMAS หรือชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ จึงอาจทำให้รู้สึกเจ็บในระดับที่ทนได้ แต่ถ้าหากมีความรู้สึกเจ็บมาก อาจเป็นเพราะแพทย์ผู้ทำการรักษาใช้พลังงานสูงเกินไป หากเจ็บจนทนไม่ไหวก็สามารถแจ้งแพทย์เพื่อให้ลดพลังงานต่ำลงมาได้

ทำ HIFU ที่ไหนดี?

อยากหน้าเด็ก ใบหน้าเรียวสวย ไร้ริ้วรอย ยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ทำ HIFU ที่ไหนดี? คำถามยอดฮิตที่หลายคนกำลังค้นหา

Bless Clinic ขออาสาเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ด้วยทีมแพทย์ ที่เลือกใช้เทคโนโลยี HIFU รุ่นล่าสุด (โปรแกรม SMAS Ultralyft) ให้ผลลัพธ์ชัดเจน ปลอดภัย ไร้กังวล มาดูกันว่าทำไม Bless Clinic จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

  • ทีมแพทย์ของ Bless Clinic มีประสบการณ์สูง ผ่านการอบรมการใช้เครื่อง HIFU โดยตรง หมดกังวลเรื่องความปลอดภัย พร้อมให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
  • Bless Clinic ใช้เครื่อง HIFU เทคโนโลยีล่าสุดจากเกาหลี ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) และ KFDA สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างแม่นยำ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
  • เห็นผลลัพธ์จริงหลังทำเพียง 1 ครั้ง ผิวหน้ายกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
  • นำเสนอราคาที่สมเหตุสมผล ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
  • บุคลากรของ Bless Clinic ให้บริการด้วยความใส่ใจ อธิบายขั้นตอนอย่างละเอียด ตอบทุกข้อสงสัย

หากคุณกำลังมองหาคลินิกทำ HIFU ที่ได้ผลลัพธ์ชัดเจน ปลอดภัย Bless Clinic พร้อมนำเสนอโปรแกรม SMAS Ultralyft ที่เป็นเทคโนโลยี HIFU ใหม่ล่าสุด ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแน่นอน

สัมผัสประสบการณ์ดูแลผิวที่ครอบคลุมมากกว่าที่เคย ที่ Bless Clinic
ที่อยู่ :
ตั้งอยู่ในซอยศิริวัฒน์ใหม่ เลยโลตัส สุพรรณบุรีมาเล็กน้อย อาคารสีเหลือง (อาคารทับทิม 2)

 

ยกกระชับหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วย HIFU Read More »

วิตามินผิวใส

วิตามินผิวใส สูตรไหนเหมาะกับคุณ?

วิตามินผิวใส สูตรไหนเหมาะกับคุณ?

วิตามินผิวใส 3 สูตรจาก Bless Clinic เลือกแบบไหนดี?

วิตามินผิวใส

ไม่ว่าใครๆ ต่างก็อยากมีผิวที่สวย กระจ่างใส และสุขภาพดีด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นผิวสีอะไร ขอแค่ดูสุขภาพดีและเปล่งปลั่งจากภายใน ก็กลายเป็นผิวสวยที่หลายคนใฝ่ฝันกันแล้ว และการหาตัวช่วยผิวก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ถ้าได้มารู้จักกับ “วิตามินผิวใส”

การดริปวิตามินผิวใส เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเติมความชุ่มชื้น สดใส และให้กับผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง  อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และดีต่อสุขภาพของเราในหลายด้าน

แต่ด้วยวิตามินผิวใสที่มีให้เลือกมากมายหลายสูตรในปัจจุบัน ทำให้หลายคนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกสูตรไหนดี สูตรไหนช่วยเรื่องอะไรบ้าง วันนี้เราจึงได้เลือกมาทั้งหมด 3 สูตรวิตามินผิวใสที่ Bless Clinic มีให้บริการ มาดูกันเลยว่าสูตรไหนที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณมากที่สุด

ทำความรู้จักกับการฉีดวิตามินผิวใส

การดริปวิตามินผิวใส เป็นการนำวิตามินและสารอาหารต่างๆ เช่น วิตามินซี กลูตาไธโอน คอลลาเจน และวิตามินอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านทางการฉีดเข้าสู่เส้นเลือด ส่วนมากจะฉีดเข้าที่บริเวณข้อพับแขน โดยวิตามินเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยให้ผิวพรรณดูขาวกระจ่างใสขึ้นดูสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

หลังจากทำการฉีดวิตามินผิวใสแล้ว ตัววิตามินจะซึมเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง ร่างกายจึงสามารถดึงวิตามินเหล่านี้ไปใช้ได้ในทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการอื่นๆ เหมือนการรับประทานวิตามินที่เห็นผลได้ช้ากว่า อีกทั้งการฉีดวิตามินผิวใส ยังช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ เรียบเนียนทั่วทั้งร่างกาย และกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ประโยชน์ของการฉีดวิตามินผิวใส

  • ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
  • ช่วยให้ผิวเรียบเนียน สม่ำเสมอกันทั่วทั้งร่างกาย
  • ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ รอยแผลเป็นเล็กๆ ดูจางลง
  • ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เต่งตึง สัมผัสแล้วเนียนนุ่ม
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวดูอ่อนเยาว์ และเปล่งปลั่ง
  • ลดการอักเสบของผิว ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้แข็งแรง
  • ช่วยกระตุ้นการทำงานและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  • ช่วยเติมวิตามินให้กับร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลีย
  • ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน โทรม ให้กลับมาสดใส

วิตามินผิวใส 3 สูตรจาก Bless Clinic มีสูตรไหนบ้าง?

วิตามินผิวใสจาก Bless Clinic เป็นวิตามินเข้มข้นแบบดริป โดยจะใช้เวลาค่อยๆ ดริป เพื่อให้ร่างกายรับความเข้มข้นของยาได้มากขึ้น เพื่อให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 สูตรด้วยกัน ดังนี้

  1. Bless Celeb Max
    Bless Celeb Max เป็นวิตามินผิวใสสูตรกระจ่างใสปรับให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้รวดเร็วที่สุด เห็นผลได้ดีเพียงฉีดไม่กี่ครั้ง ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ปรับผิวให้ขาวกระจ่างใส เสริมสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว เพิ่มความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย และเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
    Bless Celeb Max เหมาะกับใคร :
    สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวคล้ำเสียมาก ผิวไหม้แดด และต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก รวมถึงผู้ที่ทาครีมบำรุงไม่เห็นผล หรือผู้ที่ไม่เคยดริปวิตามินมาก่อน ก็สามารถดริปวิตามินผิวใสสูตร Bless Celeb Max ได้

  2. Absolute White
    Absolute White วิตามินเพื่อผิวขาวใสอมชมพูอย่างเป็นธรรมชาติ และเนียนนุ่มน่าสัมผัส พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเข้มข้น ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนรอยแดง รอยดำ โดยความเข้มข้นจะรองลงมาจากตัว Bless Celeb Max เล็กน้อย
    Absolute White เหมาะกับใคร :
    สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นที่ความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และผิวแข็งแรง เพราะเรื่องของความขาวกระจ่างใสจะเป็นรอง Bless Celeb Max แต่หากฉีดอย่างต่อเนื่องก็ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้อย่างชัดเจน

  3. Blink Plus
    Blink Plus วิตามินผิวใสสูตร maintenance เป็นสูตรซ่อมบำรุงผิวและเน้นเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยทั้งในเรื่องของผิว ผม เล็บ และลดอาการอ่อนเพลีย ไม่เป็นหวัดง่าย
    Blink Plus เหมาะกับใคร :
    เหมาะสำหรับผู้ที่ให้วิตามินมาอย่างสม่ำเสมอ และต้องการคงสภาพผิวให้สวย สุขภาพดี ยาวนาน รวมไปถึงผู้ที่ต้องการเติมวิตามินให้กับร่างกาย

การดูแลตัวเองหลังการฉีดวิตามินผิวใส

การดูแลตัวเองหลังการฉีดวิตามินผิวใส เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ผลลัพธ์หลังจากการฉีดชัดเจนขึ้นและคงอยู่ได้ยาวนาน โดยการดูแลตัวเองหลังการฉีดวิตามินผิวใส สามารถทำได้ดังนี้

  • ดื่มน้ำ 2-3 ลิตรต่อวัน
    น้ำเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยในการกระจายวิตามินต่างๆ ไปทั่วร่างกาย ดังนั้นหลังการดริปวิตามินผิวใส ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

  • ทานอาหารที่มีประโยชน์
    อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่น และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดังนั้นควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด และแอลกอฮอล์

  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
    รังสี UV จากแสงแดด เป็นศัตรูตัวฉกาจของผิวสวย เพราะทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอย และจุดด่างดำ ดังนั้นหลังการดริปวิตามินผิวใส ผิวจะบอบบางกว่าปกติ จึงควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป ทุก 2 ชั่วโมง เป็นประจำทุกวัน

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
    การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ผิว และช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส เปล่งปลั่ง

  • งดสูบบุหรี่
    สารนิโคตินในบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิว ทำให้ผิวคล้ำ เสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยง่าย ดังนั้นหลังการดริปวิตามินผิวใส ควรงดสูบบุหรี่ เพื่อสุขภาพผิวที่ดี

  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
    แอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายด้าน รวมถึงทำให้ผิวพรรณแห้ง หมองคล้ำ และเกิดริ้วรอย ดังนั้นหลังการดริปวิตามินผิวใส ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

  • บำรุงผิวเป็นประจำ
    หลังการดริปวิตามินผิวใส ผิวอาจจะแห้งกว่าปกติ ดังนั้นควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และอาจใช้สครับผิวสูตรอ่อนโยน เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส

Bless Clinic นำเสนอวิตามินผิวใสเข้มข้นในรูปแบบดริป ซึ่งออกแบบมาเพื่อการดูแลผิว กระบวนการดริปที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณได้รับวิตามินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้สามารถดูดซึมและใช้ประโยชน์จากความเข้มข้นของยาได้มากขึ้น ส่งผลให้ผิวของคุณได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึก และกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เลือกวิตามินผิวใสจากเบลส คลินิก เพื่อปลดล็อกศักยภาพแห่งผิวสวยของคุณโดย เบลสคลินิก
ที่อยู่ :
ตั้งอยู่ในซอยศิริวัฒน์ใหม่ เลยโลตัส สุพรรณบุรีมาเล็กน้อย อาคารสีเหลือง (อาคารทับทิม 2)

 

วิตามินผิวใส สูตรไหนเหมาะกับคุณ? Read More »