รักษาฝ้ากระ

ฝ้ากระ บอกลาได้! เผยเคล็ดลับหน้าใสและวิธีรักษาฝ้ากระ ไร้จุดด่างดำฉบับมือโปร

ฝ้ากระ บอกลาได้! เผยเคล็ดลับหน้าใสและวิธีรักษาฝ้ากระ ไร้จุดด่างดำฉบับมือโปร

วิธีรักษาฝ้ากระให้หายขาด มีวิธีใดบ้าง?

รักษาฝ้ากระ

ปัญหาฝ้า กระ บนใบหน้า ถือว่าเป็นปัญหาผิวอันดับต้นๆ ที่หลายคนรู้สึกกังวลใจมากที่สุด เพราะรอยฝ้าและกระบนใบหน้านั้นมีสีที่ค่อนข้างเข้มและมองเห็นได้ชัด จะแต่งหน้ากลบก็ยิ่งทำให้เป็นปื้น และหน้าดูหมองมากกว่าเดิม จึงส่งผลต่อความมั่นใจให้กับใครหลายคนเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์มากมายที่เคลมว่าสามารถรักษาฝ้ากระได้จริง แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่ได้สามารถรักษาให้หายขาดได้ อีกทั้งยังต้องอาศัยเวลาที่ค่อนข้างนาน และยิ่งไปกว่านั้น การรักษาแบบผิดวิธีหรือเผลอไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพ ก็จะยิ่งเป็นการทำร้ายผิว ส่งผลให้ฝ้ากระขึ้นมาเยอะกว่าเดิม อีกทั้งยังฝังลึกมากขึ้นอีกด้วย

แต่ปัญหาฝ้า กระ สามารถรักษาให้หายขาดได้จริง ซึ่งต้องอาศัยการดูแลสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้าฝังลึก ในบทความนี้เราจะพาไปดูวิธีรักษาฝ้ากระ ทั้งการรักษาด้วยตนเองและการเข้าพบแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะ โบกมือลาฝ้ากระ เผยผิวใสได้แบบมือโปร

ฝ้า กระ เกิดจากอะไร?

ฝ้า เป็นภาวะที่เซลล์เม็ดสีเมลานินในผิวหนังชั้นบนผลิตมากผิดปกติ เกิดเป็นจุดรูปร่างไม่แน่นอน สีน้ำตาลจางๆ ไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม คล้ายเม็ดฝุ่น กระจายอยู่บนใบหน้า มักพบบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เหนือริมฝีปาก

สาเหตุของการเกิดฝ้า

  • แสงแดด : แสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝ้า เนื่องจากรังสี UV กระตุ้นให้เซลล์เม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังทำงานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดจุดด่างดำบนใบหน้า
  • ฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ช่วงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือการใช้ยาคุมกำเนิด
  • พันธุกรรม : หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นฝ้า คนในครอบครัวเดียวกันก็สามารถเป็นฝ้าเหมือนกันได้
  • ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง : การใช้เครื่องสำอางบางชนิดอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้

กระ มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อน มีขนาดเล็ก เกิดจากการกระจุกตัวของเซลล์เม็ดสีเมลานิน พบได้ทั่วใบหน้า ลำคอ ไหล่ แขน

สาเหตุของการเกิดกระ

  • แสงแดด : แสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการเกิดกระได้เช่นเดียวกับฝ้า
  • ฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ช่วงตั้งครรภ์
  • การรับประทานยาบางชนิด : เช่น ยา tetracycline ยาคุมกำเนิด

วิธีรักษาฝ้ากระด้วยตนเอง

  1. ทายารักษาฝ้า
    เลือกยาทาที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ ไฮโดรควินโนน กรดอะเซลาอิก หรือสารอื่นๆ ที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี แต่ข้อควรระวังคือ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้

  2. รับประทานยารักษาฝ้า
    แพทย์อาจจ่ายยาที่มีส่วนผสมของสารยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น กรดทรานซามิก แต่อาจมีผลข้างเคียง จึงควรรับประทานอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

วิธีรักษาฝ้ากระด้วยหัตถการและเทคนิคทางการแพทย์

  1. รักษาฝ้ากระด้วย IPL (Intense Pulsed Light)
    IPL เป็นวิธีรักษาฝ้ากระโดยใช้เทคโนโลยีการยิงคลื่นแสงที่มีความเข้มข้นสูง ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รวมถึงฝ้ากระ มีหลักการทำงานโดยปล่อยพลังงานแสงลงสู่ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผลัดเซลล์ผิวใหม่ และทำให้เม็ดสีเมลานินจางลง

     

    ข้อดี : ไม่เจ็บ ไม่มีแผล ใช้เวลาน้อย เห็นผลลัพธ์ได้ดี
    ข้อเสีย : ต้องทำซ้ำหลายครั้ง ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล

     

  2. เลเซอร์ลดเม็ดสี ช่วยรักษาฝ้ากระ
    เลเซอร์ เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ลำแสงเลเซอร์ในการกำจัดเม็ดสีเมลานินโดยตรง โดยอาจจะเป็น Q-switch laser หรือ Picosecond laser ซึ่งสามารถใช้ในรักษาฝ้ากระฝังลึก โดยแพทย์จะเลือกชนิดของเลเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว และสีผิวของแต่ละบุคคล แต่ผลลการรักษาของเลเซอร์นั้นยังค่อนข้างไม่แน่นอน จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา

    ข้อดี :

    สามารถเห็นผลลัพธ์ได้เร็วกว่า IPL ในเคสที่มีการตอบสนองต่อการรักษาได้ดี
    ข้อเสีย : ราคาสูงกว่า IPL และ ต้องดูแลผิวหลังทำอย่างเคร่งครัด

     

  3. เมโสลดเม็ดสี รักษาฝ้า กระ
    เมโส เป็นการนำวิตามิน สารอาหาร และตัวยาต่างๆ เข้าสู่ชั้นผิวหนังชั้นที่อยู่ของเม็ดสีโดยตรง แพทย์จะเลือกสูตรยาที่เหมาะสมกับสภาพผิว และปัญหาฝ้าของแต่ละบุคคล เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้เม็ดสีจางลง และช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง

     

    ข้อดี : เหมาะกับฝ้าทุกชนิด เห็นผลลัพธ์ได้ค่อนข้างดี แต่ต้องใช้เวลาในการตอบสนอง
    ข้อเสีย : อาจมีรอยเขียวช้ำบริเวณที่รับการรักษาได้

วิธีป้องกันการเกิดฝ้ากระ เคล็ดลับหน้าใส ไร้จุดด่างดำ

  • ทาครีมกันแดดทุกวัน เป็นวิธีป้องกันฝ้า กระ ที่ดีที่สุด ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และ PA+++
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น คงความสมดุลให้ผิว
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีวิตามินซีสูง
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้า เพราะการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นให้เกิดฝ้า กระ ได้

คอร์สรักษาฝ้ากระจาก Bless Clinic เผยผิวใส ไร้จุดด่างดำฉบับมือโปร

ที่ Bless Clinic เรามีคอร์สรักษาฝ้ากระ ที่ให้ผลการรักษาที่น่าพึงพอใจ โดยใช้ยารักษาฝ้ากระโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นตัวยาควบคุม ที่ไม่สามารถหาซื้อได้เองทั่วไป ควบคู่ไปกับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ โดยคอร์สดูแลปัญหาฝ้ากระนี้ คือ โปรแกรม Melasma White โดยนี้ประกอบด้วย

  • Bless Superbright : เมโสสูตรเข้มข้น ประกอบด้วย Arbutin และ Vitamin C ที่เป็นสารที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้นที่ช่วยลดการเกิดเม็ดสีขึ้นใหม่ในชั้นผิว
  • Mesobright Plus : เมโสที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี ปรับสีผิวให้กระจ่างใส อย่างสม่ำเสมอทั่วใบหน้า
  • Melasma Mask : มาส์กไวเทนนิ่งสูตรเข้มข้น ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

นอกจากโปรแกรมรักษาหลักแล้ว คอร์สนี้ยังสามารถทำควบคู่กับเทคโนโลยีอื่นๆ ได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เช่น

  • Ultralight IPL เทคโนโลยีแสง IPL ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • Pico Melasma เทคโนโลยีเลเซอร์ Picosecond ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ

คอร์สรักษาฝ้ากระจาก Bless Clinic เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดฝ้า กระ จุดด่างดำ ผสานเทคโนโลยีขั้นสูง เข้ากับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเฉพาะทาง เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

หากกำลังมองหาคลินิกรักษาฝ้ากระที่น่าเชื่อถือ แนะนำที่ Bless Clinic สถาบันเสริมความงามที่มีการบริการด้านความงาม โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ตัวยาและเครื่องมือแท้ ปลอดภัย ผลลัพธ์ชัดเจน

สัมผัสประสบการณ์ดูแลผิวที่ครอบคลุมมากกว่าที่เคย ที่ Bless Clinic
ที่อยู่ :
ตั้งอยู่ในซอยศิริวัฒน์ใหม่ เลยโลตัส สุพรรณบุรีมาเล็กน้อย อาคารสีเหลือง (อาคารทับทิม 2)

ฝ้ากระ บอกลาได้! เผยเคล็ดลับหน้าใสและวิธีรักษาฝ้ากระ ไร้จุดด่างดำฉบับมือโปร Read More »

ยกกระชับหน้า

ยกกระชับหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วย HIFU

ยกกระชับหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วย HIFU

เปรียบเทียบ HIFU vs การผ่าตัด แบบไหนยกกระชับหน้าได้ดีกว่ากัน

ยกกระชับหน้า

เมื่อพูดถึงการยกกระชับหน้า ในอดีตหลายคนอาจจะนึกถึงการผ่าตัดเพื่อยกกระชับ ซึ่งเป็นวิธีที่เห็นผลได้ชัดเจนที่สุด แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงหลายประการ เช่น การวางยาสลบ แผลเป็นถาวร ระยะเวลาในการพักฟื้นกว่าใบหน้าจะเข้าที่ รวมไปถึง ผลข้างเคียงต่างๆ จึงทำให้การศัลยกรรมยกกระชับหน้าไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรนัก ในปัจจุบัน จึงได้มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยยกกระชับผิวได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ สิ่งนี้เรียกว่าการทำ “HIFU”

HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะช่วยยกกระชับหน้าได้จริง อีกทั้งยังช่วยปรับโครงสร้างใบหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ได้รูปหน้าสวยดังใจโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากทั้งแพทย์และผู้ใช้บริการทั่วโลก

วันนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงนวัตกรรม HIFU ว่าคืออะไร มีข้อดีอย่างไร เหมาะกับใคร รวมถึงผลลัพธ์ที่น่าประทับใจหลังการทำ

การยกกระชับหน้าด้วย HIFU คืออะไร?

HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวและช่วยปรับรูปหน้าด้วยการใช้เทคโนโลยี Focused Ultrasound ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงในการยกกระชับผิว กระตุ้นเซลล์ลงลึกถึงชั้น SMAS แก้ไขริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้เรียวสวย โดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังเห็นผลลัพธ์ได้อย่างยาวนานมากถึง 1-2 ปี

HIFU มีหลักการทำงานอย่างไร?

HIFU ใช้หลักการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านผิวหนังลงไปยังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ชั้นผิวหนัง ชั้นนี้ทำหน้าที่ยึดกล้ามเนื้อใบหน้าไว้

โดยพลังงานที่ส่งลงไปนั้นจะมีระยะห่างประมาณ 1-3 มม. เท่าๆ กัน ในระหว่างการยิงจึงทำให้เกิดความสม่ำเสมอ ไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังชั้นบนสุด ไม่แสบ ไม่เบิร์นผิว และไม่ทำให้เกิดแผลหลังจากการรักษา

คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงจาก HIFU จะไปกระตุ้นให้เกิดความร้อนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเกิดการหดตัว ผลลัพธ์คือผิวกระชับ ลดความหย่อนคล้อย ใบหน้าดูเต่งตึง ริ้วรอยลดลง กรอบหน้าคมชัดเจน

HIFU เหมาะสำหรับใคร?

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ แก้มห้อย แก้มย้อย
  • ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก หางตาตก จนทำให้ดูอายุมากเกินความเป็นจริง
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้า ต้องการให้หน้าเรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ใบหน้าสองข้างไม่สมดุลกัน
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็กๆ บริเวณใต้ตาหรือร่องแก้ม
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นหลังจากการผ่าตัด

เปรียบเทียบ HIFU vs การผ่าตัด แบบไหนยกกระชับหน้าได้ดีกว่ากัน
หากคุณกำลังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกวิธีไหนดี ระหว่าง HIFU กับการผ่าตัดเพื่อยกกระชับหน้า ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของทั้งสองวิธีอย่างละเอียด ดังนี้

HIFU ยกกระชับแบบไม่ต้องผ่าตัด

HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการส่งพลังงานความร้อนลงไปใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ผลลัพธ์คือ ใบหน้าดูยกกระชับ เต่งตึง ริ้วรอยลดลง

ข้อดีของ HIFU

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
  • ไม่มีรอยเข็มหรือรอยช้ำหลังทำ สามารถใช้หน้าต่อได้ทันที
  • ช่วยยกกระชับหน้า รวมถึงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  • ช่วยปรับรูปหน้า และโครงสร้างใบหน้าได้จริง
  • ราคาถูกกว่าการผ่าตัด
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี

ข้อเสียของ HIFU

  • เห็นผลลัพธ์ช้ากว่าการผ่าตัด (ถ้าไม่ได้นับรวมระยะเวลาพักฟื้น)
  • ไม่เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยลึก หรือหนังหย่อนคล้อยมากๆ
  • ต้องทำซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์

การผ่าตัด ยกกระชับแบบถาวร

การผ่าตัดยกกระชับใบหน้า เป็นวิธีการดึงรั้งผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น โดยการตัดและเย็บแผล เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยลึกหรือหนังหย่อนคล้อยมาก

ข้อดีของการผ่าตัด

  • เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน
  • เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยลึก หรือผิวหนังหย่อนคล้อยมาก

ข้อเสียของการผ่าตัด

  • ต้องผ่าตัดและใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น
  • ต้องใช้ยาสลบในการผ่าตัด จึงอาจเกิดผลข้างเคียงได้
  • มีโอกาสเกิดแผลเป็นหลังจากการผ่าตัด
  • ราคาสูงกว่า HIFU
  • ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติเสมอไป

HIFU vs การผ่าตัด เลือกแบบไหนดีกว่ากัน?

วิธีที่ดีที่สุดของแต่ละบุคคลนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ สภาพผิว งบประมาณ และผลลัพธ์ที่ต้องการ

สำหรับผู้ที่มีปัญหาไม่มากและต้องการวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด HIFU ถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะเมื่อเปรียบเทียบข้อดีแ ละข้อเสียแล้ว การทำ HIFU ถือเป็นวิธียกกระชับหน้าที่ปลอดภัยกว่ามาก แต่ถ้าหากผู้มีปัญหาผิวค่อนข้างเยอะ ผิวหนังหย่อนคล้อยมาก การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหน อย่าลืมเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นที่พึงพอใจมากที่สุด

ทำ HIFU เจ็บไหม?

ในระหว่างการยกกระชับหน้าด้วย HIFU จะมีความรู้สึกเจ็บในระดับหนึ่ง เนื่องจากตัวเครื่องนั้นใช้เทคโนโลยีการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้น SMAS หรือชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ จึงอาจทำให้รู้สึกเจ็บในระดับที่ทนได้ แต่ถ้าหากมีความรู้สึกเจ็บมาก อาจเป็นเพราะแพทย์ผู้ทำการรักษาใช้พลังงานสูงเกินไป หากเจ็บจนทนไม่ไหวก็สามารถแจ้งแพทย์เพื่อให้ลดพลังงานต่ำลงมาได้

ทำ HIFU ที่ไหนดี?

อยากหน้าเด็ก ใบหน้าเรียวสวย ไร้ริ้วรอย ยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ทำ HIFU ที่ไหนดี? คำถามยอดฮิตที่หลายคนกำลังค้นหา

Bless Clinic ขออาสาเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ด้วยทีมแพทย์ ที่เลือกใช้เทคโนโลยี HIFU รุ่นล่าสุด (โปรแกรม SMAS Ultralyft) ให้ผลลัพธ์ชัดเจน ปลอดภัย ไร้กังวล มาดูกันว่าทำไม Bless Clinic จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

  • ทีมแพทย์ของ Bless Clinic มีประสบการณ์สูง ผ่านการอบรมการใช้เครื่อง HIFU โดยตรง หมดกังวลเรื่องความปลอดภัย พร้อมให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
  • Bless Clinic ใช้เครื่อง HIFU เทคโนโลยีล่าสุดจากเกาหลี ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) และ KFDA สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างแม่นยำ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
  • เห็นผลลัพธ์จริงหลังทำเพียง 1 ครั้ง ผิวหน้ายกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
  • นำเสนอราคาที่สมเหตุสมผล ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
  • บุคลากรของ Bless Clinic ให้บริการด้วยความใส่ใจ อธิบายขั้นตอนอย่างละเอียด ตอบทุกข้อสงสัย

หากคุณกำลังมองหาคลินิกทำ HIFU ที่ได้ผลลัพธ์ชัดเจน ปลอดภัย Bless Clinic พร้อมนำเสนอโปรแกรม SMAS Ultralyft ที่เป็นเทคโนโลยี HIFU ใหม่ล่าสุด ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแน่นอน

สัมผัสประสบการณ์ดูแลผิวที่ครอบคลุมมากกว่าที่เคย ที่ Bless Clinic
ที่อยู่ :
ตั้งอยู่ในซอยศิริวัฒน์ใหม่ เลยโลตัส สุพรรณบุรีมาเล็กน้อย อาคารสีเหลือง (อาคารทับทิม 2)

 

ยกกระชับหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วย HIFU Read More »

วิตามินผิวใส

วิตามินผิวใส สูตรไหนเหมาะกับคุณ?

วิตามินผิวใส สูตรไหนเหมาะกับคุณ?

วิตามินผิวใส 3 สูตรจาก Bless Clinic เลือกแบบไหนดี?

วิตามินผิวใส

ไม่ว่าใครๆ ต่างก็อยากมีผิวที่สวย กระจ่างใส และสุขภาพดีด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นผิวสีอะไร ขอแค่ดูสุขภาพดีและเปล่งปลั่งจากภายใน ก็กลายเป็นผิวสวยที่หลายคนใฝ่ฝันกันแล้ว และการหาตัวช่วยผิวก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ถ้าได้มารู้จักกับ “วิตามินผิวใส”

การดริปวิตามินผิวใส เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเติมความชุ่มชื้น สดใส และให้กับผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง  อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และดีต่อสุขภาพของเราในหลายด้าน

แต่ด้วยวิตามินผิวใสที่มีให้เลือกมากมายหลายสูตรในปัจจุบัน ทำให้หลายคนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกสูตรไหนดี สูตรไหนช่วยเรื่องอะไรบ้าง วันนี้เราจึงได้เลือกมาทั้งหมด 3 สูตรวิตามินผิวใสที่ Bless Clinic มีให้บริการ มาดูกันเลยว่าสูตรไหนที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณมากที่สุด

ทำความรู้จักกับการฉีดวิตามินผิวใส

การดริปวิตามินผิวใส เป็นการนำวิตามินและสารอาหารต่างๆ เช่น วิตามินซี กลูตาไธโอน คอลลาเจน และวิตามินอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านทางการฉีดเข้าสู่เส้นเลือด ส่วนมากจะฉีดเข้าที่บริเวณข้อพับแขน โดยวิตามินเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยให้ผิวพรรณดูขาวกระจ่างใสขึ้นดูสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

หลังจากทำการฉีดวิตามินผิวใสแล้ว ตัววิตามินจะซึมเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง ร่างกายจึงสามารถดึงวิตามินเหล่านี้ไปใช้ได้ในทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการอื่นๆ เหมือนการรับประทานวิตามินที่เห็นผลได้ช้ากว่า อีกทั้งการฉีดวิตามินผิวใส ยังช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ เรียบเนียนทั่วทั้งร่างกาย และกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ประโยชน์ของการฉีดวิตามินผิวใส

  • ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
  • ช่วยให้ผิวเรียบเนียน สม่ำเสมอกันทั่วทั้งร่างกาย
  • ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ รอยแผลเป็นเล็กๆ ดูจางลง
  • ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เต่งตึง สัมผัสแล้วเนียนนุ่ม
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวดูอ่อนเยาว์ และเปล่งปลั่ง
  • ลดการอักเสบของผิว ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้แข็งแรง
  • ช่วยกระตุ้นการทำงานและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  • ช่วยเติมวิตามินให้กับร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลีย
  • ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน โทรม ให้กลับมาสดใส

วิตามินผิวใส 3 สูตรจาก Bless Clinic มีสูตรไหนบ้าง?

วิตามินผิวใสจาก Bless Clinic เป็นวิตามินเข้มข้นแบบดริป โดยจะใช้เวลาค่อยๆ ดริป เพื่อให้ร่างกายรับความเข้มข้นของยาได้มากขึ้น เพื่อให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 สูตรด้วยกัน ดังนี้

  1. Bless Celeb Max
    Bless Celeb Max เป็นวิตามินผิวใสสูตรกระจ่างใสปรับให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้รวดเร็วที่สุด เห็นผลได้ดีเพียงฉีดไม่กี่ครั้ง ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ปรับผิวให้ขาวกระจ่างใส เสริมสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว เพิ่มความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย และเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
    Bless Celeb Max เหมาะกับใคร :
    สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวคล้ำเสียมาก ผิวไหม้แดด และต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก รวมถึงผู้ที่ทาครีมบำรุงไม่เห็นผล หรือผู้ที่ไม่เคยดริปวิตามินมาก่อน ก็สามารถดริปวิตามินผิวใสสูตร Bless Celeb Max ได้

  2. Absolute White
    Absolute White วิตามินเพื่อผิวขาวใสอมชมพูอย่างเป็นธรรมชาติ และเนียนนุ่มน่าสัมผัส พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเข้มข้น ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนรอยแดง รอยดำ โดยความเข้มข้นจะรองลงมาจากตัว Bless Celeb Max เล็กน้อย
    Absolute White เหมาะกับใคร :
    สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นที่ความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และผิวแข็งแรง เพราะเรื่องของความขาวกระจ่างใสจะเป็นรอง Bless Celeb Max แต่หากฉีดอย่างต่อเนื่องก็ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้อย่างชัดเจน

  3. Blink Plus
    Blink Plus วิตามินผิวใสสูตร maintenance เป็นสูตรซ่อมบำรุงผิวและเน้นเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยทั้งในเรื่องของผิว ผม เล็บ และลดอาการอ่อนเพลีย ไม่เป็นหวัดง่าย
    Blink Plus เหมาะกับใคร :
    เหมาะสำหรับผู้ที่ให้วิตามินมาอย่างสม่ำเสมอ และต้องการคงสภาพผิวให้สวย สุขภาพดี ยาวนาน รวมไปถึงผู้ที่ต้องการเติมวิตามินให้กับร่างกาย

การดูแลตัวเองหลังการฉีดวิตามินผิวใส

การดูแลตัวเองหลังการฉีดวิตามินผิวใส เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ผลลัพธ์หลังจากการฉีดชัดเจนขึ้นและคงอยู่ได้ยาวนาน โดยการดูแลตัวเองหลังการฉีดวิตามินผิวใส สามารถทำได้ดังนี้

  • ดื่มน้ำ 2-3 ลิตรต่อวัน
    น้ำเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยในการกระจายวิตามินต่างๆ ไปทั่วร่างกาย ดังนั้นหลังการดริปวิตามินผิวใส ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

  • ทานอาหารที่มีประโยชน์
    อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่น และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดังนั้นควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด และแอลกอฮอล์

  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
    รังสี UV จากแสงแดด เป็นศัตรูตัวฉกาจของผิวสวย เพราะทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอย และจุดด่างดำ ดังนั้นหลังการดริปวิตามินผิวใส ผิวจะบอบบางกว่าปกติ จึงควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป ทุก 2 ชั่วโมง เป็นประจำทุกวัน

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
    การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ผิว และช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส เปล่งปลั่ง

  • งดสูบบุหรี่
    สารนิโคตินในบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิว ทำให้ผิวคล้ำ เสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยง่าย ดังนั้นหลังการดริปวิตามินผิวใส ควรงดสูบบุหรี่ เพื่อสุขภาพผิวที่ดี

  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
    แอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายด้าน รวมถึงทำให้ผิวพรรณแห้ง หมองคล้ำ และเกิดริ้วรอย ดังนั้นหลังการดริปวิตามินผิวใส ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

  • บำรุงผิวเป็นประจำ
    หลังการดริปวิตามินผิวใส ผิวอาจจะแห้งกว่าปกติ ดังนั้นควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และอาจใช้สครับผิวสูตรอ่อนโยน เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส

Bless Clinic นำเสนอวิตามินผิวใสเข้มข้นในรูปแบบดริป ซึ่งออกแบบมาเพื่อการดูแลผิว กระบวนการดริปที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณได้รับวิตามินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้สามารถดูดซึมและใช้ประโยชน์จากความเข้มข้นของยาได้มากขึ้น ส่งผลให้ผิวของคุณได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึก และกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เลือกวิตามินผิวใสจากเบลส คลินิก เพื่อปลดล็อกศักยภาพแห่งผิวสวยของคุณโดย เบลสคลินิก
ที่อยู่ :
ตั้งอยู่ในซอยศิริวัฒน์ใหม่ เลยโลตัส สุพรรณบุรีมาเล็กน้อย อาคารสีเหลือง (อาคารทับทิม 2)

 

วิตามินผิวใส สูตรไหนเหมาะกับคุณ? Read More »

เลเซอร์ขน 4D Elite Diode Laser

เลเซอร์ขน บอกลาขนคุด ตุ่มหนังไก่ เผยผิวเนียนเรียบ

เลเซอร์ขน บอกลาขนคุด ตุ่มหนังไก่ เผยผิวเนียนเรียบ

เลเซอร์ขน 4D Elite Diode Laser นวัตกรรมใหม่ของการจำกัดขน

เลเซอร์ขน 4D Elite Diode Laser

การมีผิวที่เรียบเนียน ปราศจากขนคุดและตุ่มหนังไก่เป็นความปรารถนาของหลายคน แต่บางครั้งการกำจัดขนด้วยวิธีเดิม ๆ เช่น โกน ถอน หรือแว็กซ์ มักทำให้เกิดปัญหาขนคุด ตุ่มหนังไก่ และการระคายเคืองผิวได้ วิธีการหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันคือ “เลเซอร์ขน” ซึ่งเป็นเรียกได้ว่าเป็นหัตถการที่ช่วยกำจัดขน ลดปัญหาขนคุด และทำให้ผิวเนียนเรียบขึ้นได้อีกด้วย

ในบทความนี้ จะพาไปดูการกำจัดขนของเครื่องเลเซอร์ขน 4D Elite Diode Laser ที่ Bless Clinic เลือกใช้ ว่าแตกต่างจากเครื่องเลเซอร์อื่นๆ อย่างไร ช่วยกำจัดขนได้จริงหรือไม่ พร้อมแนะนำวิธีดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานและปลอดภัย ไร้ขนกวนใจ

ขนคุดและตุ่มหนังไก่เกิดจากอะไร?

  • ขนคุด : จะเกิดขึ้นเมื่อเส้นขนไม่สามารถทะลุผิวหนังออกมาได้ตามปกติ เมื่อนำมือไปสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงเส้นขนที่ขดกันเป็นตุ่มเล็กๆ ในบางครั้งอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย และอาจทำให้เกิดการอักเสบ ผิวหนังบวมแดง หรือเป็นตุ่มหนองได้
  • ตุ่มหนังไก่ : ส่วนตุ่มหนังไก่ เป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมของเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำให้รูขุมขนอุดตันและทำให้ผิวบริเวณนั้นกลายเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายหนังไก่ มักเกิดมาจากการกำจัดขนแบบผิดวิธี อย่างการใช้ครีมกำจัดขนที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ หรือการแว็กซ์ขนอย่างรุนแรง

เลเซอร์ขนคืออะไร?

เลเซอร์ขน คือ เทคโนโลยีที่ใช้แสงเลเซอร์ในการกำจัดขนบริเวณที่ไม่พึงประสงค์ โดยแสงเลเซอร์จะถูกดูดซึมโดยเม็ดสีในรากขน ทำให้เกิดความร้อนและทำลายเซลล์รากขน ส่งผลให้ขนไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้

ข้อดีของการเลเซอร์ขน

  • ลดขนคุด : เมื่อรูขุมขนถูกทำลาย ขนก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นใหม่และไม่ทำให้เกิดขนคุด
  • ลดตุ่มหนังไก่ : การเลเซอร์ขนช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดการสะสมของเคราตินในรูขุมขน
  • ผลลัพธ์ยาวนาน : ขนจะลดลงหลังจากการทำเลเซอร์อย่างต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องกำจัดขนบ่อยเหมือนการแว็กซ์หรือโกน
  • ผิวเรียบเนียน : เลเซอร์ไม่เพียงแต่กำจัดขน แต่ยังช่วยให้ผิวดูเรียบและกระจ่างใสมากขึ้นด้วย

ต้องทำเลเซอร์ขนกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

จำนวนครั้งในการทำเลเซอร์ขน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความหนาของเส้นขนของแต่ละบุคคล แนะนำให้รับบริการอย่างน้อย 6-8 ครั้ง ขึ้นไป จึงจะเห็นผลอย่างชัดเจน นอกจากนี้ หลังจากการทำเลเซอร์ ขนจะค่อย ๆ ลดลงและผิวจะเนียนเรียบมากขึ้น เส้นขนอ่อนลง และขึ้นช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์ขน

  • ปรึกษาแพทย์
    ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำเลเซอร์ขน เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมในการรักษา ตรวจสอบประวัติการแพ้ยา และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและขนของคุณ
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้ผิวไหม้
    งดการอาบแดด ทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ หรือการใช้ยาที่มีผลทำให้ผิวไวต่อแสง อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ขน
  • งดการถอน ขัด หรือแว็กซ์ขน
    ควรงดการถอน ขัด หรือแว็กซ์ขนบริเวณที่จะทำเลเซอร์ อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนทำ เพื่อให้รากขนเจริญเติบโตเต็มที่

การดูแลหลังทำเลเซอร์ขน

  1. หลังทำเลเซอร์ขน อาจมีอาการผิวแดงหรือแสบร้อนเล็กน้อย สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการได้
  2. ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันบริเวณที่ทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันผิวไหม้จากแสงแดด
  3. ทาครีมบำรุงผิวสูตรอ่อนโยน เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและฟื้นฟูหลังการทำเลเซอร์
  4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและขับของเสียออกจากร่างกาย
  5. อาจมีอาการคันหลังทำเลเซอร์ ควรหลีกเลี่ยงการเกาหรือถู เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  6. อาบน้ำอุ่นในอุณหภูมิปกติ เพื่อป้องกันผิวแห้งและระคายเคือง

เครื่องเลเซอร์ขน 4D Elite Diode Laser ตัวเลือกที่เหนือกว่า เพื่อผิวเรียบเนียน ไร้ขนกวนใจ

การทำเลเซอร์ขน กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของหนุ่มสาวยุคใหม่ ที่ต้องการกำจัดขน บอกลาปัญหากวนใจจากขนที่ไม่พึงประสงค์ Bless Clinic ศูนย์เลเซอร์กำจัดขน ขอแนะนำ “เครื่องเลเซอร์ขน 4D Elite Diode Laser” เทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้

ทำไมต้องเลือก 4D Elite Diode Laser?

  • นวัตกรรม 4 in 1 Diode Laser, SHR, Elight และ Ice Cooling System ผสานพลังงานเลเซอร์ 4 รูปแบบ ผสานการทำงานร่วมกับนวัตกรรมเย็นจัด ผลลัพธ์คือการกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดรอยแผลเป็น ผิวเรียบเนียน ไร้รอยไหม้
  • เหมาะกับทุกสภาพผิว ผ่านการรับรองจาก US FDA ปลอดภัยแม้ผิวบอบบาง
  • กำจัดขนได้ตรงจุด  ด้วยขนาดหัวเลเซอร์ขนาด 0.5-15 cm สามารถปรับขนาดได้ตามพื้นที่
  • เลเซอร์ได้รวดเร็ว ทันใจ เหมาะกับบริเวณกว้าง เช่น ขา แขน แผ่นหลัง
  • ไม่เจ็บ ระหว่างการเลเซอร์ขน รู้สึกเพียงความเย็นสบาย ด้วยนวัตกรรม Ice Cooling System
  • เห็นผลชัดเจน ขนขึ้นช้าและบางลง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

การเลเซอร์ขน เป็นวิธีการกำจัดขนที่รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ลักษณะของขน ฮอร์โมน และการดูแลหลังทำ และอาจจำเป็นต้องทำเลเซอร์ซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ แต่หากมีอาการผิดปกติ เช่น ผิวไหม้ ผื่นคัน หรือมีไข้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

Bless Clinic มุ่งมั่นคัดสรรเลเซอร์กำจัดขนที่ดีที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่เหนือกว่า ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูง

เลเซอร์ขน เลือก Bless Clinic

เลเซอร์ขน บอกลาขนคุด ตุ่มหนังไก่ เผยผิวเนียนเรียบ Read More »

ฉีดฟิลเลอร์คางปรับรูปหน้า

ฉีดฟิลเลอร์คาง เพิ่มมิติใบหน้า คางชัด เป๊ะปัง

ฉีดฟิลเลอร์คาง เพิ่มมิติใบหน้า คางชัด

เผยความลับฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยปรับรูปหน้า

ฉีดฟิลเลอร์คางปรับรูปหน้า

การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นอีกหนึ่งการทำหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนไทย และคนเอเชีย ซึ่งมักจะมีปัญหารูปหน้าที่สั้น ซึ่งสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งปัญหาเหล่านี้สาเหตุส่วนใหญ่หลักๆเกิดมาจาก ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม หรือคางไม่สมดุลกัน ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เท่ากัน และไม่รับกับส่วนอื่นบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูไม่ได้สัดส่วนที่สวยงาม

การฉีดฟิลเลอร์คางนั้น สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยฟิลเลอร์จะเพิ่มความยาวของคางขึ้น และทำให้รูปหน้าส่วนล่าง ได้สัดส่วน มีความสวยงาม มีมิติ ปรับรูปหน้าได้ดั่งใจ แต่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าทำไมการฉีดฟิลเลอร์คางถึงได้รับความนิยมมากกว่าการศัลยกรรม บทความนี้เราจะพาทุกท่านไปเจาะลึกเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คางว่าคืออะไร? ช่วยเสริมโหงวเฮ้งได้จริงหรือไม่? และให้ผลลัพธ์อย่างไรบ้างหลังจากการฉีด

ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร?

ฉีดฟิลเลอร์คาง คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid, HA) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี เข้าไปช่วยช่วยเติมเต็มบริเวณคาง เพื่อช่วยแก้ปัญหาคางตัด คางบุ๋ม คางไม่ได้สัดส่วน ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ได้สัดส่วนที่เหมาะสม โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม

ที่ Bless Clinic คลินิกเสริมความงามชั้นนำ เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ 4 รุ่น จากประเทศต่าง ๆ ในการฉีดฟิลเลอร์คางให้กับผู้เข้ารับบริการ มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย

  1. Neuramis ฟิลเลอร์เกาหลี
    Neuramis ฟิลเลอร์เกาหลี คุณภาพสูง ผลิตจาก HA (Hyaluronic Acid) บริสุทธิ์ มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า เสริมคาง แก้ไขริ้วรอยลึก ริ้วรอยร่องแก้ม ขมับ
    จุดเด่น
    • มีความยืดหยุ่นสูง ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
    • เห็นผลลัพธ์เร็ว ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
    • มียาชาในตัว ช่วยลดอาการเจ็บระหว่างการฉีด
    • ราคาย่อมเยาว์กว่าฟิลเลอร์ตัวอื่น

       

  2. Belotero ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์
    Belotero ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ ผลิตจาก HA ละเอียด ปรับรูปหน้าได้เนียนเรียบ เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึก เพิ่มความอิ่มฟูของผิว ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน รวมถึงปรับรูปคาง
    จุดเด่น
    • เนื้อฟิลเลอร์เนียน ละเอียด ปรับรูปหน้าได้เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน
    • เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
    • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-18 เดือน

       

  3. Restylane ฟิลเลอร์สวีเดน
    Restylane ฟิลเลอร์จากสวีเดน ฟิลเลอร์พรีเมียม เนื้อบางเบา เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์คาง แก้ไขรูปหน้า เสริมโหนกแก้ม
    จุดเด่น
    • ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เหมาะสำหรับการเสริมคาง เสริมโหนกแก้ม
    • ปรับรูปหน้าให้ดูคมชัด เก็บกรอบหน้า
    • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

       

  4. Juvederm ฟิลเลอร์อเมริกา
    Juvederm ฟิลเลอร์อเมริกา คุณภาพสูง ผลิตจาก HA คุณภาพ มีความนุ่มลื่น เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึก ฉีดฟิลเลอร์คาง กรอบหน้า
    จุดเด่น
    • ฟิลเลอร์นุ่มลื่น ฉีดสบาย ไม่เจ็บ
    • เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึก เพิ่มความอิ่มเอิบให้ใบหน้า
    • เสริมคาง ปรับรูปหน้าให้ดูหวาน ละมุน
    • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
    • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9-15 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

นอกจากจะช่วยทำให้คางสวยขึ้นแล้ว การฉีดฟิลเลอร์คาง ยังช่วยแก้ปัญหาอื่น ๆ ได้อีกด้วย โดยผลลัพธ์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์คาง มีดังนี้

  • ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
    สำหรับผู้ที่มีรูปหน้าเหลี่ยม กรามใหญ่ คางสั้น การฉีดฟิลเลอร์คาง จะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวยาวมากขึ้น ช่วยเพิ่มความสมดุลของสัดส่วนใบหน้า
  • เสริมโหงวเฮ้ง
    ตามศาสตร์โหงวเฮ้ง เชื่อว่า คางเปรียบเสมือนฐานรากของใบหน้า คางที่ได้รูปสวยงาม จะส่งผลดีต่อโชคลาภ เสริมความมั่นคง ความก้าวหน้า
  • แก้ไขปัญหาคางบุ๋ม
    ผู้ที่มีคางบุ๋ม หรือมีคางตัด คางไม่ได้รูป สามารถใช้ฟิลเลอร์ปรับรูปคางให้เต็ม เรียบเนียนขึ้นได้ ซึ่งส่งผลดีต่อบุคลิกภาพ และความมั่นใจ
  • ปรับรูปคางให้เข้ากับใบหน้า
    การฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถปรับรูปทรงคางให้เข้ากับสัดส่วนของใบหน้าได้ ไม่ว่าจะเป็นคางแหลม คางเหลี่ยม คางกลม
  • ลดริ้วรอย
    ฟิลเลอร์บางยี่ห้อสามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณคาง ช่วยให้ผิวบริเวณรอบคางดูเรียบเนียน ไร้ริ้วรอย ผิวอิ่ม กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง

  • หลังจากการฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถเห็นผลลัพธ์หลังการฉีด โดยไม่ต้องพักฟื้น
  • ฟิลเลอร์คางช่วยเสริมคางให้โดดเด่น เพิ่มความยาวใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียว และได้รูปมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยเสริมโครงสร้างใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณคาง
  • การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นวิธีที่รวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย
  • ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์คางสามารถคงอยู่นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลหลังทำ

ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์คาง

  • การฉีดฟิลเลอร์คางอาจไม่เหมาะกับคนที่มีประวัติการแพ้ยา แพ้ฟิลเลอร์ กลุ่มโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้ที่มีประวัติเป็นโรคผิวหนังที่รุนแรง
  • ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน แพทย์ผู้ทำการฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงาม
  • ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์คางไม่ถาวร แนะนำรับบริการซ้ำทุก 1-2 ปี ตามความพึงพอใจ

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการการฉีดฟิลเลอร์คาง

  • หลังจากการฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวม แดงบริเวณที่ฉีดได้บ้าง แต่อาการเหล่านี้มักจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน
  • อาจจะมีรอยเข็มจากการฉีด แต่จะจางหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ในกรณีที่เลือกสถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐานหรือใช้เข็มฉีดยาที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อาจมีความเสี่ยงติดเชื้อ แต่โอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก
  • ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องมีเนื้อ และความแข็งที่เหมาะสมกับตำแหน่ง และแพทย์ผู้ทำการฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์ไหล หรือเป็นก้อน

เสริมโหงวเฮ้ง ดึงดูดโชคลาภ ด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง

ตามหลักโหงวเฮ้ง คางที่สวยงาม ควรมีลักษณะดังนี้

  • คางอิ่มเอิบ : บ่งบอกถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย
  • คางกลมมน : เสริมความเมตตา เสริมความสุข
  • คางยาวปานกลาง : ส่งผลดีต่อความมั่นคง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
  • คางมีเนื้อ ไม่แหลมคม : เสริมความมั่นใจ มีแต่คนรัก คนเอ็นดู ผู้ใหญ่อุปถัมภ์

การฉีดฟิลเลอร์คาง นอกจากจะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย เสริมโหงวเฮ้งแล้ว ยังช่วยเสริมความมั่นใจ บุคลิกภาพ และส่งผลดีต่อโชคลาภ ความก้าวหน้าในชีวิตได้อีกด้วย หากสนใจอยากฉีดฟิลเลอร์คาง ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน แพทย์ผู้ทำการรักษาต้องมีความเชี่ยวชาญ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย

หากกำลังมองหาคลินิกฉีดฟิลเลอร์คางที่น่าเชื่อถือ แนะนำที่ Bless Clinic สถาบันเสริมความงามที่มีการบริการด้านความงาม โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ตัวยาและเครื่องมือแท้ ปลอดภัย ผลลัพธ์ชัดเจน

ฉีดฟิลเลอร์คาง เลือก Bless Clinic

ฉีดฟิลเลอร์คาง เพิ่มมิติใบหน้า คางชัด เป๊ะปัง Read More »

ฟิลเลอร์ร่องแก้มปรับรูปหน้า

ปลดล็อกใบหน้าเด็ก ด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ปลดล็อกใบหน้าเด็ก ด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง? เคล็ดลับเพื่อความอ่อนเยาว์

ฟิลเลอร์ร่องแก้มปรับรูปหน้า
เมื่อตัวเลขอายุเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่เราทุกคนจะต้องเผชิญนั่นก็คือปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณร่องแก้ม ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นร่องลึกได้อย่างชัดเจน ถือเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจ และยังทำให้ใบหน้าดูมีอายุอีกด้วย ฟิลเลอร์ร่องแก้ม จึงกลายเป็นหัตถการอันดับต้นๆ ที่หลายคนเลือกใช้ในการแก้ปัญหา ช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น เพราะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนหลังทำทันที อีกทั้งยังดูเป็นธรรมชาติ ดูละมุนมากขึ้น ในบทความนี้เราจึงจะพาไปดูผลลัพธ์จากการแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกบริเวณร่องแก้ม ด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้ม บอกลาปัญหาร่องลึก ปลดล็อกใบหน้าเด็ก เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร?

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีคุณสมบัติช่วยเติมเต็ม เข้าไปในบริเวณร่องแก้มที่มีปัญหาเป็นร่องลึก ช่วยให้ร่องบริเวณที่เติมฟิลเลอร์เข้าไปตื้นขึ้น ช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูละมุน และอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับหน้าที่ของฟิลเลอร์ คือ จะทำหน้าที่กักเก็บน้ำไว้ที่ชั้นใต้ผิวหนัง และนำไปเติมเต็มในส่วนต่างๆ ที่มีการยุบตัวลง เช่น บริเวณใต้โหนกแก้ม ร่องแก้ม ใต้คาง เพื่อปรับให้ผิวบริเวณนั้นมีความอิ่มตัวขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมมีความสดใส ไม่โทรม และอ่อนเยาว์อย่างเห็นชัดทันทีหลังจากการฉีดในครั้งแรก นอกจากนี้ ในการรับบริการฟิลเลอร์ร่องแก้มในแต่ละครั้ง ควรใช้ฟิลเลอร์แท้ โดยการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนรับบริการทุกครั้ง และควรรับบริการอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ทั้งประสบการณ์การฉีด และมีความรู้ความสามารถในการจัดการแก้ปัญหาหากเกิดภาวะแทรกซ้อน

ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  • ผู้ที่มีร่องแก้มลึก
  • ผู้ที่มีรอยเส้นใต้โหนกแก้ม
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
  • ผู้ที่มีโหนกแก้มต่ำ

ร่องแก้มลึก ริ้วรอยร่องแก้ม เกิดจากสาเหตุอะไร?

ปัญหาร่องแก้มลึก หรือมีริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่จะพบได้บ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป ส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม แก่กว่าวัย แต่บางคนอาจพบปัญหานี้ได้แม้มีอายุยังน้อย ซึ่งเกิดจากสาเหตุด้วยกัน ได้แก่
  1. คอลลาเจนและอิลาสตินลดลง คอลลาเจน และอิลาสติน เป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น เต่งตึง เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสตินจะลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอย และร่องลึกได้
  2. กระดูกมีการยุบตัวลง เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น กระดูกจะมีการกร่อนตัวลง ส่งผลให้เกิดร่องลึกบริเวณที่เป็นร่องแก้มตามมา ทำให้เกิดร่องลึกบริเวณดังกล่าวได้ การสูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ไขมันใต้ชั้นผิวหนังลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เกิดร่องแก้มลึก
  3. กรรมพันธุ์ กรรมพันธุ์มีส่วนสำคัญในการกำหนดโครงสร้างใบหน้า และผิวหนัง หากมีคนในครอบครัวมีร่องแก้มลึก คุณก็มีโอกาสที่จะมีร่องแก้มลึกได้เช่นกัน
  4. พฤติกรรมการใช้ชีวิต พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ นอนดึก เครียด เป็นต้น ส่งผลให้ผิวหนังเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เกิดริ้วรอย และร่องลึกได้
  5. แสงแดด แสงแดดส่งผลให้ผิวหนังเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และร่องลึก ดังนั้น การทาครีมกันแดดก่อนออกไปเผชิญแสงแดดจึงสำคัญมาก

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  • ช่วยชะลอวัย ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ ดูละมุน
  • เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มในครั้งแรก และสามารถเห็นผลได้ชัดเจนภายในประมาณ 2 สัปดาห์
  • ช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ผิวหน้าเรียบเนียน ดูยกกระชับ
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใหม่ใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึง เรียบเนียน
  • มีความปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย (หากใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่ได้มาตรฐาน)
  • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผลเป็น

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรใช้กี่ CC ?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะแนะนำให้ฉีดเพียงแค่ 1-2 CC ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการเติมเต็มปัญหาริ้วรอยทั่วไป แต่สำหรับบางเคสที่อาจมีปัญหาค่อนข้างเยอะ เช่น เป็นร่องลึก และเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยรวมกัน แพทย์อาจพิจารณาเพิ่มปริมาณฟิลเลอร์ หรืออาจแนะนำทำหัตถการอื่นๆ ในการรักษาร่วมด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษา

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ปลดล็อคใบหน้าเด็ก ไว้วางใจ Bless Clinic โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์

  • ปลดล็อคใบหน้าเด็ก : เติมเต็มร่องลึกบริเวณร่องแก้ม หรือยกกระชับใบหน้าให้ดูอิ่มฟู ดูสดใสด้วยฟิลเลอร์
  • ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวยาว : เสริมโหงวเฮ้ง เสริมความมั่นใจ เหมาะกับทุกโครงหน้า
  • ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติ: แพทย์ผู้มีประสบการณ์วิเคราะห์โครงหน้า เลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ปรับรูปหน้าอย่างตรงจุด โดยเบลสคลินิก มีบริการฟิลเลอร์หลากหลายแบรนด์ชั้นนำให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม และความต้องการ
หากกำลังมองหาคลินิกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่น่าเชื่อถือ ติดต่อ Bless Clinic คลินิกเสริมความงาม ในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีการบริการด้านความงามที่ครบวงจร โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ตัวยาและเครื่องมือแท้ ปลอดภัย ผลลัพธ์ชัดเจน
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เลือก Bless Clinic

ปลดล็อกใบหน้าเด็ก ด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้ม Read More »